มหัศจรรย์หมูลดราคา รับ "รัฐบาล" แถลงนโยบาย

นับเป็นความมหัศจรรย์อีกครั้งหนึ่งสำหรับวงการค้าปศุสัตว์ไทย เมื่ออยู่ ๆ ราคาหมูเนื้อแดงในตลาดปรับลดราคาลงมาอย่างฮวบฮาบเหลือเพียง ก.ก.ละ 120-130 บาท จากเดิมที่ราคาพุ่งขึ้นไปสูงถึง ก.ก.ละ 152-162 บาท หรือปรับลดลงมาทันทีถึง ก.ก.ละ 22-32 บาท
โดยปรากฏการณ์หมูเริ่มลงราคาครั้งนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์


และตามมาด้วยคำถามที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับราคาเนื้อหมูภายในประเทศ

จากสถิติราคาหมูเนื้อแดงย้อนหลังโดยกรมการค้าภายใน หน่วยงานที่กำกับดูแลราคาสินค้าหน่วยงานเดียวของประเทศพบว่า ราคาหมูเป็น ณ หน้าฟาร์ม เริ่มผิดปกติในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จากราคา 70 บาท/ก.ก.ในเดือนก่อนหน้า ได้ปรับขึ้นมาเป็น 73 บาท/ก.ก. ส่งผลให้ราคาหมูเนื้อแดงในตลาดขยับขึ้นมาเป็น 139 บาท/ก.ก. และขยับขึ้นทุกสัปดาห์จนราคาหมูหน้าฟาร์มทำท่าว่าจะทะลุ 80 บาท/ก.ก. ในวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยราคาที่สูงถึง 79 บาท/ก.ก. ส่งผลให้หมูเนื้อแดงในตลาดสดปรับราคาสูงขึ้นถึง 150-160 บาท/ก.ก.

เสียงร้องเรียนของผู้บริโภคในช่วงปลายสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ส่งผลให้กรมการค้าภายในตัดสินใจประกาศควบคุมราคาหมูเป็น ณ หน้าฟาร์มไว้ไม่ให้เกิน 81 บาท/ก.ก. เพื่อตรึงราคาหมูเนื้อแดง (เฉพาะส่วนไหล่และสะโพก) ในตลาดไว้ไม่ให้เกิน ก.ก.ละ 152 บาท โดยการควบคุมราคาหมูมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามมีคำอธิบายจากกรมการค้าภายในว่า หมูเนื้อแดงที่ปรับราคาสูงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากดีมานด์/ซัพพลาย กล่าวคือมีหมูจำนวนหนึ่งตายจากการระบาดของโรค PRRS ที่ว่ากันว่าถึง 30% โดยไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว หมูหายไปจากระบบด้วยโรคระบาดนี้ในจำนวนเท่าใดกันแน่ เพราะอาจหมายถึง 30% ของฟาร์มฟาร์มนั้น หรือ 30% ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ 30% ของหมูทั้งประเทศ

ซึ่งกรมการค้าภายในไม่ติดใจสงสัยไปสอบสวนว่า แท้ที่จริงแล้วมีหมูตายจากการระบาดของโรคเท่าใดกันแน่ แต่กลับมุ่งที่จะเข้าไปควบคุมราคาขายปลีกหมูซึ่งเป็นส่วนปลายเหตุ โดยละเลยการทำ "กำไร" ของ "เขียง" ที่เป็นคนกลางระหว่างฟาร์มกับผู้ขายในท้องตลาด

แน่นอนว่าการเข้าควบคุมราคาหมูเนื้อแดงเฉพาะหัวไหล่-สะโพก ในขณะที่ละเลยส่วนประกอบอื่น ๆ ในตัวหมู อาทิ สันนอก-สันใน ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า ก.ก.ละ 200 บาท และเริ่มมีหมูบางส่วนหายไปจากท้องตลาดหรือหาซื้อได้ยากขึ้น

ขณะที่กรมปศุสัตว์เอง โดยนายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดี ไม่เชื่อว่าหมูในประเทศตายจากโรค PRRS ถึง 30% เพราะหากตัวเลขความสูญเสียสูง ขณะนั้นคงไม่มีหมูขายในท้องตลาดเหมือนอย่างปัจจุบันนี้ และเชื่อว่าหมูที่ตายจากโรคระบาดไม่น่าเกิน 15-20% แต่ราคาเนื้อหมูที่ปรับขึ้นไปน่าจะเกิดจาก

1)หมูในประเทศบางส่วนเกิดความเสียหายขึ้นจริงจากโรคระบาด PRRS แต่ไม่มากเหมือนกับตัวเลขที่ถูกใช้อ้างอิง 2)มีการนำสุกรที่เลี้ยงไว้ยังไม่ได้ขนาดเข้าสู่ตลาดเพื่อทดแทน 3)อาหารสัตว์มีการปรับราคาขึ้นมาโดยตลอด

พร้อมกับให้ข้อมูลทีว่า ราคาหมูเป็น ณ หน้าฟาร์มที่ 81 บาท ในปัจจุบันเป็นราคาที่เหมาะสมกับสถาวการณ์ที่เกิดขึ้น และน่าจะคงอยู่ต่อไปอย่างน้อยอีก 2 เดือน จึงจะมีหมูรุ่นใหม่เข้าสู่วงจรการเลี้ยงของฟาร์ม

สวนทางกับภาวะหมูเนื้อแดงในตลาดปัจจุบันที่ลดราคาลงอย่างผิดปกติในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เหลือ ก.ก.ละ 120-130 บาท โดยมีคำอธิบายจากกรมการค้าภายในว่า "เป็นเพราะอากาศเริ่มเย็นลง ทำให้มีผลผลิตหมูออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ?" กลายเป็นความมหัศจรรย์ของราคาหมูเนื้อแดงในประเทศ

พร้อม ๆ กับมีข้อน่าสังเกตว่า การลดราคาลงอย่างทันทีทันใดนี้ อยู่ในห้วงเวลาที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้เช่นกัน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น: