เงินฝากลดวงเงินคุ้มครองตอบโจทย์..Kassetชิงส่ง3กองทุนดูดเงิน

บลจ.กสิกรไทย ส่ง 3 กองทุนใหม่เอาใจลูกค้าพร้อมกัน 16-22 สิงหาคมนี้ ชู 2 กองคุ้มครองเงินต้น ตอบโจทย์นักลงทุนลดผลกระทบพรบ.คุ้มครองเงินฝากทีเหลือเพียง 1 ล้านบาท แถมความเสี่ยงต่ำยิลด์ดี ส่วนอีกกองเน้นตราสารหนี้แบงก์ต่างประเทศ ลงทุน 6 เดือนให้ยิลด์ 3.4% ต่อปี
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะทำการเปิดขาย กองทุนเปิดเค


คุ้มครองเงินต้นตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เอ (KPPTF3MA)และกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้นตราสารหนี้ต่างประเทศ 11 เดือน เอ (KPPFF3MA)ในวันที่ 16-22 สิงหาคม นี้ โดยทั้ง 2 กองทุนที่จะเสนอขายประมาณการโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.10% ต่อปี และ 3.70 % ต่อปี ตามลำดับ คาดว่าจะรองรับเม็ดเงินได้ถึง 15,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้นตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เอ (KPPTF3MA)มีขนาดกองทุน 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และเงินฝากธนาคารพาณิชย์

ด้านกองทุนเปิดเค เค คุ้มครองเงินต้นต่างประเทศ 11 เดือน เอ (KPPFF3MA) มีขนาดกองทุน 5,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งจำนวน

"เชื่อว่ากองทุนคุ้มครองเงินต้นจะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลดผลกระทบจากการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากหลังจากมีการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยปรับลดการคุ้มครองเต็มจำนวนเหลือเพียง 50 ล้านบาทต่อบัญชี และจะปรับลดวงเงินคุ้มครองเหลือเพียง 1 ล้านบาทต่อบัญชี นอกจากนี้ยังสามารถรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ยังคงต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ"นายพัชรกล่าว

นายพัชรกล่าวอีกว่า กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น มีจุดเด่นที่เหนือกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการอื่นๆ ของบริษัทคือ มีความเสี่ยงต่ำกว่า เนื่องจากกองทุนมุ่งคุ้มครองเงินต้นภายใต้นโยบายการลงทุนที่ กลต. กำหนดให้ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของไทย ตราสารหนี้ภาครัฐในต่างประเทศซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน 2 อันดับแรก ตั๋วสัญญาใช้เงิน บัตรเงินฝาก และเงินฝากธนาคารพาณิชย์ โดยจะไม่มีการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเลย ฉะนั้น ด้วยคุณภาพของตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดีและมีความน่าเชื่อถือสูงที่กล่าวไป จะช่วยให้ ผู้ลงทุนคลายกังวลในเรื่องความเสี่ยงที่เงินต้นจะสูญหายได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์ของนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน บริษัทยังเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน เอซี (KFI6MAC) เป็นทางเลือกเพิ่มเติมพร้อมกันกับทั้ง 2 กองทุนข้างต้นในวันที่ 16-22 สิงหาคม นี้

โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น ICBC สาขาซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เงินฝาก Bank of China สาขาฮ่องกง และเงินฝาก Agricultural Bank of China สาขาฮ่องกงและกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ 3.40% ต่อปี
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: