' ดิ เอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์ ' การสร้างบ้านคืองานศิลปะ

ภาพห้องรับแขกอันโอ่โถงตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสไตล์หลุยส์นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งเป็นที่นั่งประจำของคุณดวงตา ตุงคะมณี นักแสดงเจ้าบทบาทผู้รับบทคุณหญิงภวัน แม่ของคงไคยสามีของอรุณประไพ ตัวละครในเรื่องเมียแต่งที่กำลังโด่งดังนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หลังใหญ่บนเนื้อที่ 6 ไร่ ที่ต้องการสื่อถึงจักรวาลอันยิ่งใหญ่ทุกตารางนิ้วของคฤหาสน์หลังนี้ทั้งภายในและภายนอกล้วนได้รับการออกแบบอย่างลงตัว โดยมีสถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร ไปจนถึงนักออกแบบภูมิสถาปัตย์ควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปตามแบบที่ได้จัดวางไว้

’ภาษาสถาปนิกอาจจะเรียกบ้านในรูปแบบนี้เป็นแบบโรมัน แต่สำหรับผมจะใช้คำว่า แนวยุโรปคลาสสิกแทน เป็นบ้านแบบที่มีกลุ่มลูกค้าซึ่งมีความชอบเป็นกลุ่มเฉพาะ“ สุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ กรรมการผู้จัดการ ดิ เอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์ ระบุ


นับตั้งแต่เปลี่ยนแนวธุรกิจจากการรับเหมาก่อสร้างมาเป็นธุรกิจรับสร้างบ้านหรูสไตล์ไม่เหมือนใคร ดิ เอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์ไม่เพียงสร้างความแตกต่างของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่ยังสร้างทีมงานที่วันนี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อที่อยู่อาศัยไปพร้อม ๆ กัน จนทำให้ดิ เอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์เป็นบริษัทรับสร้างบ้านหรูเพียงบริษัทหนึ่งเดียวที่ไม่มีคู่แข่ง

“แต่ก่อนคนจะไม่ค่อยนิยมจ้างบริษัทรับสร้างบ้านมาสร้างบ้านให้ โดยจะจ้างให้คนออกแบบให้แล้วก็หาผู้รับเหมามาก่อสร้าง แต่ระยะหลังลูกค้ามีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น จึงเลือกที่จะเดินเข้ามาหาบริษัทรับสร้างบ้านที่มีบริการทุกอย่างแบบครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงการตกแต่งภายในและภายนอก”

เมื่อได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นบริษัทรับสร้างบ้านก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่รับสร้างบ้านขนาดกลางราคาตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท ขณะที่บ้านราคา 5-20 ล้านบาท ก็จะมีจำนวนน้อยลง ระดับราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไปจะมีเพียงไม่กี่ราย

การสร้างบ้านหรูแบบที่กลายเป็นฉากในละครหลายหลังนั้น นอกจากจะต้องมีที่ดินอย่างน้อย 200-300 ตารางวาขึ้นไป หรือเฉลี่ยขนาดกำลังพอเหมาะอยู่ที่ 1-2 ไร่แล้ว รูปแบบที่ลูกค้าต้องการจะมีทีมงานออกแบบทุกตารางนิ้วของบ้านตอบสนองความต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ออกแบบเพื่อลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ ไม่เพียงแค่รูปแบบบ้านทั้งหลัง แต่ยังรวมไปถึงรูปปั้น หรือแม้แต่สระว่ายน้ำที่เป็นองค์ประกอบของบ้านหรูที่ขาดไม่ได้ด้วย

“10 กว่าปีก่อนสัดส่วนของการตกแต่งจะอยู่ที่ 50-100% ของงบประมาณการก่อสร้าง แต่ปัจจุบันจะสูงกว่านั้นถึง 80-250% เพราะบางครั้งเพียงแค่โซฟาตัวเดียวอาจมีราคาถึง 1 ล้านบาท หรือชุดโต๊ะทำงานบางชุดเพียงแค่โต๊ะกับเก้าอี้ก็มีราคาเกือบ 7 หลัก อย่างบ้านหลังล่าสุดที่มีมูลค่ารวม 260 ล้านบาท เฉพาะค่าใช้จ่ายในการจัดภูมิสถาปัตย์และตกแต่งภายนอกสูงถึง 42 ล้านบาทแล้ว”

นอกจากจะออกแบบของประดับตกแต่งให้โดยเฉพาะสำหรับบ้านแต่ละหลังแล้ว บางครั้งลูกค้าที่ต้องการเลือกเฟอร์นิเจอร์หรูแบบที่ต้องเห็นของจริงก่อน บริษัทก็ต้องบริการถึงขั้นที่ต้องพาไปบุกถึงโรงงานที่ประเทศอิตาลี ซึ่งบางหลังช่างจากอิตาลีก็ต้องเดินทางมาวัดขนาดสถานที่จริงเพื่อทำการจัดทำแชนเดอเลียร์ โคมไฟประดับขนาดใหญ่ให้พอดีกับขนาดของบ้านด้วย

ขณะที่รูปแบบบ้านนั้นแม้จะเป็นสไตล์ยุโรปคลาสสิกอย่างที่ผู้บริหารบริษัทบอก แต่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย ทีมออกแบบจึงได้มีการปรับรูปแบบให้เข้ากับอากาศร้อนชื้นและมีฝน ไม่ว่าจะเป็นกันสาดด้านหน้าบ้านที่ถูกออกแบบให้ยื่นออกมามากกว่าบ้านในแถบยุโรป จนกลายเป็นหลังคาที่พร้อมเป็นที่จอดรถเพื่อรับ-ส่งคนที่อาศัยอยู่ในบ้านแบบไม่ต้องกลัวร้อนหรือเปียกฝน เช่นเดียวกับกันสาดรอบ ๆ บ้านที่จะถูกออกแบบให้ยื่นออกมาเพื่อให้ร่มเงาและกันฝนไปในตัว

การสร้างบ้านของดิ เอ็มเพอเร่อร์เฮ้าส์ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างที่อยู่อาศัย แต่เหมือนกับเป็นการสร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นเอก โดยทีมงาน โดยเฉพาะนักออกแบบจะต้องเดินทางไปยังอิตาลีเพื่อดูงานในสถานที่จริง แล้วนำประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนารูปแบบบ้านให้มีความหลากหลายอยู่เสมอ

อยากรู้ว่าบ้านหรูราคาหลักร้อยล้านหน้าตาเป็นอย่างไร ไปดูตัวอย่างได้ในงาน “รับสร้างบ้าน 2011” ระหว่าง 25-28 ส.ค.นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยผู้ที่จองปลูกสร้างบ้านภายในงานมีสิทธิลุ้นรับรถยนต์ ฮอนด้า บริโอ SMT 2 คัน รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ 4 คัน และ ไอแพด 2 16GB 3G ไวไฟ 8 เครื่อง ผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าเข้าชมงานผ่าน www.hba-th.org มีสิทธิลุ้นรับส่วนลดสูงสุดเพิ่มอีก 10,000 บาท เมื่อจองปลูกสร้างบ้านกับบริษัทใดก็ได้ภายในงาน ส่วนผู้เข้าชมงานทุกคนมีสิทธิลุ้นรับโทรศัพท์ มือถือ แบล็กเบอรี่ วันละ 4 เครื่อง 4 วัน แจก 16 เครื่อง นอกจากนี้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดทำโครงการสร้างบ้านด้วยรอยยิ้ม มอบแบบบ้านฟรีกว่า 30 แบบ.

article@dailynews.co.th
ที่มา เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: