TMBAMจัดทัพ3กองทุนผสม เน้นสร้างผลตอบแทนตามช่วงเวลา

TMBAMจัดทัพ3กองทุนผสม เน้นสร้างผลตอบแทนตามช่วงเวลา
บลจ.ทหารไทย จัดทัพลงทุน เปิดตัว 3 กองทุนผสมใหม่ "กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะสั้น 2-3ปี" , "ระยะกลาง 3-5ปี" และ"ระยะยาว 5 ปีขึ้น" เน้นระยะเวลาลงทุนเหมาะสมกับผลตอบแทนดี พร้อมกระจายความเสี่ยง ระบุ ศก.ไทยกำลังเติบโต เป็นจังหวะลงทุนที่ดี เปิดขาย IPO 28 มีนาคม - 5 เมษายน 2555 นี้ ทั้ง 3 กองทุน

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัว 3 กองทุนผสมประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะสั้น(TMB Asset Allocation Short Term Fund) เหมาะกับผู้ต้องการลงทุนระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี
กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะปานกลาง (TMB Asset Allocation Medium Term Fund) เหมาะกับผู้ลงทุนระยะประมาณ 3-5 ปี และกองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะยาว (TMB Asset Allocation Long Term Fund) เหมาะกับผู้ลงทุนเวลาประมาณ 5 ปีขึ้นไป โดยจะเปิดขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม - 5 เมษายน 2555 นี้


โดยทั้ง 3 กองทุนนั้นมุ่งเน้นให้ความสำคัญ กับการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน ในสัดส่วนที่เหมาะสมคู่ไปกับการกระจายการความเสี่ยงที่ดี เพื่อผลตอบแทนที่ดีในแต่ช่วงระยะเวลาการลงทุนที่หมาะสม โดยสัดส่วนของการลงทุนนั้นจะเลือกให้เหมาะสมกับตัวนักลงทุน โดยนโยบายการลงทุนจะเลือกเปรียบเทียบกับราคาของสินทรัพย์ในแต่ละช่วงเวลา หากราคาหุ้นตกลงทุนก็อาจจะเข้าไปลงทุน

"กองทุนผสมที่มีอยู่ในอุตหากรรมมองว่ายังไม่ตอบโจทย์การลงทุนมาก ซึ่งกองทุนทั้ง 3 กองของบลจ.ทหารไทยนี้ สามรถตอบโจทย์เรื่องระยะเวลาในการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งคาดว่าทั้ง 3 กองทุนนี้มี มูลค่ากองทุนละ 2,000 ล้านบาทและมีศักยภาพที่สามารถเติบโตได้ถึง 10,000 ล้านบาทในปีนี้"นายสมจินต์ กล่าว

นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน กล่าวว่า ทั้ง 3 กองทุนนั้นเป็นกองทุนผสมที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ โดยกองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะสั้นลงทุนในหุ้น 15% จากไม่เกิน 25% ซึ่งมองว่าสามารถให้ผลตอบแทนได้ในระดับ 5-8% ขณะที่กองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะปานกลาง ลงทุนในหุ้น 30% จากได้สัดส่วน ไม่เกิน 45% คาดว่าให้ผลตอบแทนได้ในระดับ 7-8% ส่วนกองทุนเปิดทหารไทยจัดทัพลงทุนระยะยาวนั้น จะลงทุนตามดุลยพินิจของทีมผู้จัดการกองทุน ซึ่งไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น คาดว่าให้ผลตอบแทนได้ในระดับ 8-10% ทั้ง3กองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ได้ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ

"สัดส่วนของหารลงทุนในหุ้นนั้นจะเน้นการลงทุนในแบบเชิงรับ สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 และส่วนที่เป๋นตราสารหนี้นั้นเน้นลงทุนในแบบเชิงรุก ลงทุนในตราสารหนี้อายุ 2-3ปี ทั้งตราสารหนี้ในและต่างประเทศที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและมีสภาพคล่องสูง"นายไพศาล กล่าว

ด้านนายธีระศันส์ ทุติยะโพธิ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ฝ่ายจัดการลงทุน กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโลกว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจยุโรปปรับตัวลงอย่างชัดเจนซึ่งต้องดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ขณะที่สหรัฐฯเริ่มดีขึ้นมีตัวเลขการจ้างงานที่ดีขึ้นรวมทั้งตลาดหุ้นที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนตลาดเกิดใหม่รวมทั้งเอเชียก็ดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมาเงินลงทุนส่วนใหญ่ไปลงทุนในอยู่ในทองคำจำนวนมาก ขณะนี้เริ่มกลับเข้ามาลงทุนใน 3 ภูมิภาคนี้แล้ว

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นไป เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมองว่าภาคธนาคารยังมีสภาพคล่องสูงที่สามารภปล่อยกู้ได้อีก ขณะเดดียวกันตอนนี้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลดีเพราะคาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นและเศราฐกิจมีการเติบโตที่ดีขึ้นจึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าไปลงทุนในกองทุนทั้ง 3 กองทุนใหม่ของบลจ.ทหารไทย
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์





ไม่มีความคิดเห็น: