บลจ.กรุงศรีส่งกองทุน “กรุงศรีโกลด์เฮดจ์” เพิ่มทางเลือกสำหรับการลงทุน

บลจ.กรุงศรีส่งกองทุน “กรุงศรีโกลด์เฮดจ์” เพิ่มทางเลือกสำหรับการลงทุนในกองทุนทองคำที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เสนอขายระหว่างวันที่ 4-10 ก.ค. 55 มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เฮดจ์ (KF-HGOLD) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนใน SPDR Gold Trust โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนเงินที่ลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ SPDR Gold Trust เป็นกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยถือครองทองคำกว่า 80% ของกองทุนอีทีเอฟที่มีอยู่ทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ากว่า 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มุ่งเน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ



โดยบริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสรับผลตอบแทนจากการปรับเพิ่มของราคาทองคำ อีกทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน เนื่องจากราคาทองคำมักจะไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับการลงทุนในหุ้น และสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอื่นๆ

นายฉัตรพี กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในทองคำ แม้ว่าในระยะสั้นราคาทองคำจะปรับลดราคาลงในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน มีปัจจัยหลายประการที่สนับสนุนให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของการขยายตัวของปริมาณเงินโดยธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกซึ่งทำให้เงินสกุลต่างๆ เสื่อมค่าลง มีความต้องการใช้ทองคำเพิ่มสูงขึ้นจากประเทศจีนและอินเดียในขณะที่ปริมาณการผลิตทองคำกลับลดลงอย่างต่อเนื่องราคาทองคำมักเคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เมื่อนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซ อิตาลี และสเปน จึงมีการขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาและเพิ่มการถือครองเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน แต่เมื่อความกังวลดังกล่าวผ่อนคลายลงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน อีกทั้งการปรับลดการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นภายในปี 2013 อาจส่งผลให้ FED ต้องดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเพิ่มอุปทานของเงินดอลลาร์และอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง

อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เฮดจ์ (KF-HGOLD) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนสูง ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่ากองทุน KF-HGOLD จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากการลงทุนในทองคำถือเป็นทางเลือกที่ดีโดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงทางมูลค่าสูง สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ง่ายกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น แต่การเก็บรักษาทองคำแท่งนั้นมีความยุ่งยากทั้งในเรื่องการหาพื้นที่ในการจัดเก็บและการรักษาความปลอดภัย ดังนั้น กองทุนทองคำจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระในการเก็บรักษาและเพิ่มความปลอดภัยจากการโจรกรรมให้แก่ผู้ลงทุน และมีสภาพคล่องสูงเนื่องจากสามารถซื้อ-ขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท รวมทั้งมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนจึงไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ปัจจุบัน บลจ.กรุงศรีมีกองทุนภายใต้การบริหารจัดการที่ลงทุนในทองคำจำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGOLDRMF) และกองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์ (KF-GOLD) ซึ่งมีนโยบายลงทุนใน SPDR Gold Trust แต่ไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนที่ลงทุนในทองคำมีทั้งที่มีนโยบายป้องกันและไม่ป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่มีมุมมองเรื่องมูลค่าเงินลงทุนว่าจะคำนวณเป็นเงินบาทหรือเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งให้ผู้ลงทุนใช้เป็นเครื่องมือในการสับเปลี่ยนกองทุนเมื่อมุมมองต่อค่าเงินเปลี่ยนแปลงไป
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์






ไม่มีความคิดเห็น: