ศุภชัย เจียรวนนท์ นักธุรกิจแห่งปี 54 มังกรผู้พลิกตลาดมือถือไทย

ศุภชัย เจียรวนนท์ นักธุรกิจแห่งปี 54 มังกรผู้พลิกตลาดมือถือไทย
ปฏิบัติการสายฟ้าแลบของศุภชัย เจียรวนนท์ และกลุ่มทรูคอร์ปอเรชั่น ในช่วงต้นปี 2554 จับมือ กสท โทรคมนาคม มาเซ็นสัญญาร่วมกัน บนโมเดลรูปแบบทางธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่บนสัญญาสัมปทานแบบเดิม โดยใช้ลูกเล่นทางเทคนิคด้วยการรับซื้อเหมาแอร์ไทม์เครือข่าย 3G ของกสท หรือที่เรียกว่า 'ยี่ปั้ว' นำมาให้บริการลูกค้า ภายในระยะเวลา 14 ปีครึ่ง

การพลิกเกมครั้งนั้นส่งให้กลุ่มทรูฯ สามารถแก้ปัญหาจุดบอดในเรื่องอายุสัญญาสัมปทานของทรูมูฟกับกสท ที่จะหมดลงในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมสิทธิใช้ความถี่ 850 MHz ที่มีมูลค่ามหาศาล
ซึ่งว่ากันว่าหากเปิดประมูลความถี่ย่านนี้ต้องได้เงินนับหมื่นล้านบาท แต่กลุ่มทรูใช้เงินซื้อฮัทช์ไม่กี่พันล้านก็ได้ครอบครองความถี่แล้ว


การเดินเกมครั้งนั้นของศุภชัย แม้จะถูกมองว่าเป็นการอาศัยช่องว่างทางกฎหมายและการเอื้อประโยชน์จากภาครัฐภายใต้กลุ่มการเมืองเก่าก่อนที่จะเปลี่ยนมือมาสู่ยุคเพื่อไทย แต่ก็ถือเป็นการพลิกโฉมหน้าครั้งสำคัญให้กับวงการโทรคมนาคมเมืองไทย และกลายเป็นชนวนที่ทำให้ทั้งเอไอเอสและดีแทค กระโดดลงมาเล่นตลาด 3G กันอย่างพร้อมเพรียงก่อนที่จะมีการประมูลใบไลเซนส์ 3G ในปี 2555

ศุภชัยได้กดปุ่มเปิดตัวบริการ 3G ภายใต้บแบรนด์ “ทรูมูฟเอช” อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2554

ศุภชัย เจียรวนนท์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ประกาศก้องในวันเปิดตัวแบรนด์ทรูมูฟเอชว่า “ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของ "ทรูมูฟ" จากเดิมในระบบ 2G เป็นผู้ตามอันดับ 3 ในตลาด แต่ 3G จะช่วยให้ทรูมูฟก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดได้

สารที่ “ศุภชัย” ส่งออกไปในวันนั้น แสดงให้เห็นว่าวันนี้กลุ่มทรูไม่ได้แข่งกับดีแทคเพื่อแย่งชิงความเป็นอันดับสองในตลาดแล้ว แต่พร้อมที่จะกระชากเอไอเอสให้ตกจากผู้นำตลาดมือถือเมืองไทยที่ครอบครองมายาวนาน เพราะวันนี้ข้อจำกัดเรื่องเครือข่ายที่เป็นประเด็นอ่อนไหวที่สุดของทรูฯ ได้ถูกแทนที่ด้วยการให้บริการ 3G

แผนการขยายโครงข่ายทรูมูฟเอช ศุภชัยวางไว้รวม 5 เฟส โดยภายในต้นปี 2555ทรูมูฟเอชจะมีจำนวนสถานีฐานเทียบเท่าทรูมูฟ (2G) และในสิ้นปี 2555 จะครอบคลุมทั้งประเทศเท่ากับโครงข่าย 2G ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน หรือ 85% ของพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ จะส่งผลให้ทรูมูฟเอชแข่งขันกับเอไอเอสได้แบบเท่าเทียมกันหรือเหนือกว่าด้วยซ้ำในอนาคตอันใกล้

หากมามองถึงยุทธศาสตร์ของกลุ่มทรูฯ ในปี 2555 ศุภชัยได้วางให้กลุ่มทรูฯ เดินหน้าสานต่อยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนด้วยความเป็นผู้นำทุกรูปแบบการสื่อสาร ผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์ เทคโนโลยีไร้สาย ทีวี และคอนเทนต์ของกลุ่มทรู เน้นนวัตกรรม พร้อมธุรกรรมใหม่ๆ เพิ่มรายได้ ขยายตลาดเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย รองรับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่

แนวทางการสานต่อยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์นั้น กลุ่มทรูพร้อมพัฒนานวัตกรรมบริการหลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ พร้อมขับเคลื่อนทุกธุรกิจหลักเต็มที่ เร่งขยายบริการทรูมูฟ เอช บนเครือข่าย 3G+ เต็มรูปแบบ ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากยิ่งขึ้น รองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งขยายบริการทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน เน้นโปรโมชั่นให้ความคุ้มค่าสูงสุด ตอบสนองทุกรูปแบบการใช้งานของลูกค้า

ศุภชัย เชื่อมั่นว่าธุรกิจโทรคมนาคมยังคงเติบโตต่อไป บริการที่ไม่ใช่เสียง (Non-Voice) ของประเทศโดยรวมยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความนิยมใช้สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ อาทิ แท็บเลต และแอร์การ์ด ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาด Non-Voice โดยเฉพาะบริการโมบายอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จึงเป็นโอกาสของกลุ่มทรูที่จะตอบสนองความต้องการ ให้คนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สาระบันเทิงผ่านช่องทางต่างๆ ของกลุ่มทรูได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

ศุภชัย เน้นย้ำเรื่องของการมุ่งนำนวัตกรรม เพื่อสร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้กลุ่มทรูเป็นผู้ประกอบการไทยรายเดียวที่สามารถให้บริการสมบูรณ์ทุกรูปแบบการสื่อสาร ทั้งบริการสื่อสารด้านเสียง จากโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิดีโอ ข้อมูลและมัลติมีเดียต่างๆ ผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์ เทคโนโลยีไร้สาย ทีวี และคอนเทนต์ของกลุ่มทรู โดยนวัตกรรมเทคโนโลยี DOCSIS 3.0 ของทรูออนไลน์ จะสร้างความแตกต่างด้วยการยกระดับศักยภาพบริการบรอดแบนด์ให้ความเร็วสูงสุดจากเดิม 100 Mbps เป็น 200 Mbps ทำให้กลุ่มทรูฯ จะสามารถเติมเต็มทุกประสบการณ์บนโลกอินเทอร์เน็ตได้ตรงใจทุกการใช้งาน

นอกจากนี้นวัตกรรม Hybrid Set Top ของทรูวิชั่นส์ ทำให้ลูกค้าสามารถรับชมรายการในรูปแบบ HDคอนเทนต์ พร้อมสร้างความสะดวกให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ท่องเว็บไซต์ Youtube และชมวิดีโอต่างๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังยกระดับมาตรฐานการรับส่งข้อมูลให้ลูกค้าดูรายการต่างๆ ของทรูวิชั่นส์ได้ทุกช่องทาง ทั้งทีวี โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก

ทรูวิชั่นส์ ยังมีแผนเตรียมเพิ่มคอนเทนต์ตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ โดยเฉพาะ HD คอนเทนต์ ซึ่งเปลี่ยนมิติใหม่ของการรับชมทีวีในเมืองไทยที่คมชัดเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง รวมถึงเทคโนโลยี MPEG 4 ทำให้ลูกค้ารับชมรายการต่างๆ ผ่านช่องสัญญาณได้มากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนเพิ่มรายได้ให้กับทรูวิชั่นส์

“ยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ โดยการนำนวัตกรรมการให้บริการผสมผสานกับโครงข่ายและคอนเทนต์หลากหลาย จะตอกย้ำความเป็นผู้ประกอบการไทยรายเดียว ที่ให้บริการสมบูรณ์ทุกรูปแบบการสื่อสาร ด้วยความรวดเร็ว สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง” ศุภชัยกล่าวถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นในปี 2555 และยังเป็นการตอกย้ำความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

การสร้างเกมจากโอกาสทางการธุรกิจที่เกิดขึ้นของ “ศุภชัย เจียรวนนท์” จากช่วงปี 2554 ถึงปี 2555 ที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ให้กับกลุ่มทรูฯ ได้เดินไปสู่จุดมุ่งหมายที่วางไว้ น่าจะทำให้ภาพของ “ศุภชัย เจียรวนนท์” ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าเขาคือผู้ที่พลิกตลาดโทรคมนาคมและทีวีเมืองไทย ยิ่งกลุ่มทรูฯ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ ก็จะยิ่งทำให้ตลาดทั้งหมดก้าวกระโดดไปยิ่งขึ้นด้วย
ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น: