ชายนิด โง้วศิริมณี นักธุรกิจแห่งปี 54 ซีอีโอ ยอดนักคิด พลิกมิติการพักอาศัย

ชายนิด โง้วศิริมณี นักธุรกิจแห่งปี 54 ซีอีโอ ยอดนักคิด พลิกมิติการพักอาศัย
ต้องยอมรับว่าด้วยบุคลิกและสไตล์การทำงานที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว และทันกับทุกสถานการณ์ของชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) หรือ( PF) ทำให้เพอร์เฟคสามารถประคับประคองตัวอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งองค์กรยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านมรสุมลูกใหญ่ เมื่อครั้งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จนทำให้ได้รับการขนานนามในวงการอสังหาริมทรัพย์ ว่า “แมวเก้าชีวิต”

วิธีคิดของชายนิดจะแตกต่างจากดีเวลลอปเปอร์ในวงการเดียวกัน และกล้าที่จะลงมือทำก่อนคู่แข่ง หากมีความมั่นใจว่าการตัดสินใจอย่างรวดเร็วภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ
จะทำให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าก่อนคู่แข่ง ซึ่งกว่าคู่แข่งจะคิดได้และกว่าจะตามทันต้องใช้เวลาอีกนาน และเมื่อถึงเวลานั้น เพอร์เฟคก็จะก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่ง


ภาพที่ปรากฎชัดเจนภาพหนึ่ง คือ เมื่อตลาดคอนโดมิเนียมมาแรงมากในช่วง 2-3 ปีก่อน ทำให้ดีเวลลอปเปอร์เกือบทุกราย ทั้งรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ ทั้งในและนอกตลาด ต่างพากันเข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียม ทำให้ภาวะการแข่งขันรุนแรง จนกระทั่งปีก่อนหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน นำโดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ออกมาเตือนให้ระวังจะเกิดภาวะฟองสบู่เหมือนวิกฤตต้มยำกุ้งที่ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ล้มระเนระนาด และลุกลามไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน และแรงงาน หากไม่มีมาตรการควบคุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ชายนิด กลับไม่คิดเช่นนั้น ในทางตรงกันข้าม กลับคิดว่า กำลังซื้อยังมีอีกมาก ความต้องการพักอาศัยในคอนโดมิเนียมค่อนข้างสูง เพียงแต่ว่า ต้องหาตลาดให้เจอ โฟกัสกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ซึ่งการลงทุนโครงการใหม่จะต้องเลือกทำเลที่ดี มีศักยภาพ รูปแบบโครงการต้องตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายให้ได้ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการและภายนอกโครงการต้องเหนือคู่แข่ง โครงการจึงจะขายได้แบบไม่สะดุด แม้ว่าภาวะการแข่งขันจะรุนแรง ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวก็ตาม

ชายนิด กล่าวว่า การลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมของเพอร์เฟค ไม่ได้ตีกรอบแค่การลงทุนเกาะแนวรถไฟฟ้าสายเดิมอย่าง BTS หรือ MRT และรถไฟฟ้าสายใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างเช่น สายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ)เท่านั้น แต่เพอร์เฟค ยังเลือกลงทุนโครงการที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยอีกด้วย เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่จะต้องการพักอาศัยในหอพัก หรืออพาร์ตเมนท์ใกล้รั้วมหาวิทยาลัยทั้งนั้น

เพอร์เฟคจึงเลือกไปลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัย เน้นกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา โดยการลงทุนจะกำหนดราคาขายที่ตารางเมตรละ 40,000-50,000 บาท หรือเฉลี่ยที่ 1 ล้านบาทต้น ๆ ราคาดังกล่าวเมื่อต้องผ่อนกับสถาบันการเงินจะเป็นอัตราที่ผู้ปกครองสามารถจ่ายได้เพราะใกล้เคียงกับค่าเช่าหอพัก หรืออพาร์ตเมนท์ ที่มีค่าเช่าเดือนละ 5,000-7,000 บาท ขึ้นอยู่ทำเลและเกรดของหอพัก หรืออพาร์ตเมนท์

“โครงการนำร่องของเพอร์เฟคอยู่ที่แจ้งวัฒนะใกล้กับมหาวิทยาลัยหอการค้า วิทยาเขตใหม่ ซึ่งที่ดินที่จะถูกพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยหอการค้า คือที่ดินที่เพอร์เฟคขายให้มหาวิทยาลัย ซึ่งยังมีที่ดินรอบ ๆ มหาวิทยาลัยเหลืออีกมากเพียงพอที่เพอร์เฟคจะลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อนักศึกษา อีกทั้งยังไล่ซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงอีกให้ได้ 1,000 ไร่ จากปัจจุบันที่ดินผืนดังกล่าวมีจำนวน 700 ไร่ เพื่อพัฒนาที่พักอาศัยครบวงจร”ชายนิด กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การทำคอนโดมิเนียมรอบรั้วมหาวิทยาลัยเป็นโจทย์ใหม่ที่ท้าทาย เพราะคนจ่ายเงินคือผู้ปกครอง ขณะที่ผู้พักอาศัยคือนักศึกษาซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ฉะนั้น การออกแบบโครงการจะต้องเป็นที่ถูกใจทั้งคนจ่ายเงิน และผู้พักอาศัย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องทำให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าลูกหลานจะพักอาศัยแบบปลอดภัย และมีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อด้วย ขณะที่นักศึกษาจะต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียน อาทิ อินเทอร์เน็ต สถานที่ออกกำลังกาย และร้านค้า เป็นต้น สื่งเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

หลังจากที่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยหอการค้าเรียบร้อยแล้ว ชายนิดลุยต่อทันที โดยการไปลงทุนคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัย ในจังหวัดเชียงใหม่ คือโครงการยูนิลอฟท์ ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 500 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการยูนิลอฟท์ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จำนวน 500 ยูนิต มูลค่า500 ล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมแผนลงทุนโครงการต่อไปใกล้มหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกริก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยมีแผนจะขยายการลงทุนไปใกล้มหาวิทยาลัยทุกแห่ง

โดยในปีนี้จะขยายไปเปิดตัวใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จำนวน 500 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) จำนวน 1,000 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท และใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา อีก 1 โครงการ

อีกปรากฎการณ์หนึ่งที่สะท้อนแนวคิดการทำงานอย่างรวดเร็วของ ชายนิด นั่นคือ หลังจากที่กระแสอนุรักษ์พลังงานมาแรง ชายนิด ประกาศเปิดตัวพันธมิตรรายใหญ่ทันที คือเอสซีจี ซึ่งได้ร่วมทุนกับ “เซกิซุย เคมิคอล” จากประเทศญี่ปุ่นสร้างบ้านด้วยระบบโมดูลาร์อย่างเต็มตัวภายใต้ชื่อ "บ้าน SCG HEIM" (เอสซีจี ไฮม์) สำหรับโครงการแนวราบ ประเภทบ้านเดี่ยวของเพอร์เฟค

“ในช่วงนั้น ยังไม่มีดีเวลลอปเปอร์รายใดกล้าใช้การก่อสร้างด้วยวัสดุประหยัดพลังงาน เพราะเป็นต้นทุนที่สูงมาก ทำให้ต้องขายบ้านในราคาที่สูงขึ้น ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายบ้านจัดสรรค่อนข้างซบเซา จากปัญหาการชุมชุนประท้วงทางการเมือง และความไม่มั่นใจของผู้บริโภคต่อการซื้อที่พักอาศัย”

แต่สิ่งที่ชายนิดตัดสินใจทำในวันนั้น ถือว่ามาค่อนข้างถูกทาง เพราะทุกวันนี้ ยอดขายโครงการแนวราบของเพอร์เฟคไปได้ด้วยดี ขณะที่ดีเวลลอปเปอร์รายอื่นเริ่มทยอยก่อสร้างบ้านด้วยวัสดุประหยัดพลังงานแต่ยังไม่สมบูรณ์ทั้งหลัง
ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น: