วิธีการสร้างความมั่นคั่งให้กับชีวิตตนเอง

วิธีการสร้างความมั่นคั่งให้กับชีวิตตนเอง
วัฎจักรชีวิตของคนทั่วๆ ไป ล้วนไม่แตกต่างกัน นั่นคือเริ่มจากเกิดมา ก็เริ่มต้นใช้ชีวิต ศึกษาหาความรู้สร้างวิชาชีพติดตัว ซึ่งเป็นช่วงที่มีรายจ่ายมาก เมื่อจบการศึกษาเริ่มทำงานหารายได้เลี้ยงชีพ หาประสบการณ์ เพื่อตนเองและครอบครัว จะเป็นช่วงที่มีรายได้มากขึ้นจะมากกว่ารายจ่าย และสะสมความมั่งคั่งไว้เพื่อใช้จ่ายในอนาคตวัยเกษียณ

จะเห็นว่าช่วงสำคัญของชีวิตก็คือช่วงทำงานสะสมรายได้เพิ่มความมั่งคั่งให้ตนเองและครอบครัว โดยมีพื้นฐานจากการศึกษา พื้นฐานครอบครัว และประสบการณ์ของแต่ละคนเป็นกุญแจสำคัญที่จะบอกว่าแต่ละคนจะสร้างความมั่งคั่งจากวิชาชีพได้มากน้อยเพียงใด



การทำงานเพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเองนั้นก็ขึ้นกับแต่ละคนว่าจะเลือกเส้นทางชีวิตแบบใด บางคนเลือกทำงานหาเงินโดยการเป็นลูกจ้าง

เหมือนหนูถีบจักรทำงานไปเรื่อยๆ บางคนเลือกอาชีพอิสระทำงานเป็นนายตนเอง บางคนเลือกที่จะเสี่ยงทำธุรกิจของตนเองโดยมุ่งหวังให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะด้วยการทำเองทั้งหมด หรือเมื่อตั้งตัวได้ก็จ้างมืออาชีพมาบริหารงานแทน ในทางปฎิบัติมหาเศรษฐีหลายคนเลือกลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทของคนอื่นที่มีอนาคตดี ผู้บริหารดี มีปันผลสูง เรียกว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่ดี แทนการลงทุนเองโดยตรงซึ่งไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จได้แค่ไหน

การทำงานที่กล่าวมานั้นเป็นการหารายได้หลักจากการประกอบอาชีพ แต่ปัจจุบันการหารายได้เสริมจากเงินที่มีอยู่ของแต่ละคนก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ชีวิต โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ “อิสรภาพทางการเงิน”ซึ่งความหมายง่ายๆ คือ การที่สามารถหารายได้จากการลงทุนจากเงินที่มีอยู่ได้อย่างสม่ำเสมอเพียงพอแก่การดำรงชีวิตตามปกติ เช่น การมีรายได้ประจำจากค่าเช่าหอพักที่สร้างไว้ เงินปันผลและดอกเบี้ยจากการลงทุนต่างๆ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่ต้องการการวางแผนการลงทุนที่รัดกุมและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลก่อนทั้งสิ้น
การวางแผนการลงทุนเพื่อการสร้างความเป็นอยู่อย่างมั่นคงในโลกของการลงทุนซึ่งมีวิธีให้ลงทุนอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทก็มีอัตราผลตอบแทน ( return ) และอัตราความเสี่ยง ( risk ) แตกต่างกัน ผลตอบแทนและความเสี่ยงมักจะแปรผันกัน โอกาสรับผลตอบแทนมากมักจะมีความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงมีความหมายง่ายๆ หมายถึง ความผันผวน ความไม่แน่นนอนของผลตอบแทน ถ้าผลตอบแทนเท่ากันก็ต้องเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ถ้าความเสี่ยงเท่ากันก็ต้องเลือกวิธีสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคลย่อมไม่เท่ากัน จึงจำเป็นต้องจัดสรรเงินลงทุนไปยังรูปแบบการลงทุนต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ตามปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ รายได้ ทัศนคติ รสนิยม ปัจจุบันมีวิธีการลงทุนที่คนทั่วไปคุ้นเคยหลากหลายมากขึ้น อย่างเช่น

1. การฝากเงินผ่านสถาบันการเงิน
2. ตราสารทุน
3. ตราสารหนี้
4. ตราสารอนุพันธ์
5. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญ: กบข
6. กองทุนรวม
7. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว
8. กองทุนอสังหาริมทรัพย์
9. กองทุนส่วนบุคคล
10. ประกันชีวิต
11. อสังหาริมทรัพย์
12. เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์
13. ทองคำ และอัญมณี
14. นาฬิกา
15. วัตถุมงคล
16. ของเก่า ของสะสมและอื่นๆ
ตั้งแต่การฝากเงินจนถึงลงทุนในของสะสม แต่ละวิธีก็มีผลตอบแทนและความเสี่ยงแตกต่างกัน ดังนั้นการหาวิธีเสริมความมั่งคั่งให้ตนเอง ต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมเฉพาะคน ตามความถนัด คุ้นเคย และเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง “อย่าปล่อยให้เงินนอนหลับ” ด้วยการออมการลงทุนเพื่ออนาคตโดยยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี

คอลัมน์บัวหลวง Money Tips
โดยนายพินทุ ตราชื่นต้อง
ที่มา manager.co.th







ไม่มีความคิดเห็น: